บล็อกเกี่ยวกับภาษาอิตาลี รวบรวมข้อมูลการเรียนรู้ภาษาอิตาลี และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับอิตาลีจ้า
วิทยุ
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสของอิตาลีจ้า
Buon Natale แปล่า "Merry Christmas" ในภาษาอิตาลี
สิเขียว สีขาว สีแดงเป็นสีธงชาติของประเทศอิตาลีและมันก็เป็นสิประจำเทศกาลคริสต์มาสด้วยใช่มั้ยล่ะ :P
-----เทศกาลคริสต์มาส จะเริ่มจัดช่วง 17-25 ธันวาคม เพราะวันที่ 17 ธันวาเป็นเทศกาล "Saturnalia" ที่ชาวโรมันจะเฉลิมฉลองบูชาเทพเจ้ากันในสมัยก่อน เขาเลยถือว่าเทศกาลคริสต์มาสจัดตั้งแต่ 17 ตามฉบับ Christmas แบบดั้งเดิม :) ซึ่งตรงนี้ก็คงเหมือนกับชาวคริสต์ในที่อืนๆ ----
l'albero di Natale แปลว่า ต้นคริสต์มาส เพราะ albero แปลว่าต้นไม้ (tree) ส่วน Natale ก็คือคริสต์มาสยังไงล่ะจ๊า....และชาวอิตาลีก็เรียก Santa Claus ว่า Babbo Natale
มีแม่มดใจดีที่นำของเล่นมาแจกให้เด็กในวัน Epiphany (วันเฉลิมฉลองที่ 6 มกราคม) ชาวอิตาลีเรียกแม่มดนี้ว่า La Befana
ที่นครรัฐวาติกัน มีการแสดงการประสูติของพระเยซูอย่างโอ่อ่า ที่ Piazza San Pietro
อาหารจานเด็ดของเทศกาลคริสต์มาสมีปลาเค็มแห้งๆ อย่าง baccalà ด้วยค่ะ
ส่วนอาหารเย็นในเทศกาลคริสต์มาสอีฟของอิตาลี จะมีปลา 7 ชนิด หรืออาจะเป็น 9,11,13 ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น
มีธรรมเนียมการกินขนมปังในเทศกาลคริสต์มาสด้วย อยู่ที่มิลาน มีขื่อเรียกว่า "Panettone" (เพราะว่า Panini,Panino แปลว่า ขนมปัง หรือแซนวิช) คงเป็นเพราะว่าอาหารอย่าง Panino เหมาะกับการกินในโอกาสพิเศษทุกโอกาส
ชาวอิตาลี จะกินถั่ว Lentil ในวันปีใหม่เพราะเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ กินแล้วจะโชคดี
ภาพและฉากการประสูติของพระเยซูโบราณๆ จะมีในโบสถ์และพิพิธภัณฑ์ที่เนเปิ้ล
มีการจัดงาน New Year's Eve ที่ Bologna เรียกว่า Fiera del Bue Grasso
แปลตามภาษาอังกฤษได้ว่า Fat Ox Fair ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกะปีใหม่ยังไงเหมือนกัน.. :l
คำศัพท์สำหรับเทศกาลคริสมาสค่ะ
Italian Christmas Vocabulary List - resource: italian.about.com)
วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
มาทำความเข้าใจ Present Continuous Tense กัน!
ความจริงแล้ว รูปประโยคแบบ Present Tense ธรรมดาๆ ในภาษาอิตาลีส่วนใหญ่ก็ยังใช้สื่อความหมายได้เทียบเท่ากับ Present Continuous Tense เช่นกัน
การที่เราจะพูดว่า Io mangio ฉันกิน ก็สามารถสื่อได้ว่า ฉันกำลังกินได้!! เช่นเดียวกับภาษาไทยของเราเลย เพราะทั้งสองอย่างก็ยังคงความเป็น present - ปัจจุบันอยู่ค่ะ
แม้เราจะบอกว่า Io mangio อาจแปลว่าตอนนี้เรากำลังกินอยู่
หรืออาจจะเป็นแค่คำตอบว่า เราก็กินเฉยๆ.. "ไม่ได้"กำลังกินอยู่
เพราะการสื่อสารทียังต้องอาศัย บริบท ต่างๆด้วย
การใช้ Present Tense ในภาษาอิตาลี ยังสามารถใช้ตีความเป็น Present Continuous Tense ได้เช่นกัน
แต่เมื่อมีการแยก Tense ตามรูปแบบไวยากรณ์ที่ควรจะเป็นแล้ว แน่นอนว่า ฉันทำ และฉันกำลังทำมันต้องต่างกันแน่ๆ
และก็มีหลายกรณีที่เราไม่สามารถตีความหมายจากรูปประโยคได้เข้ากับเหตุการณ์ซะทีเดียว
ทีนี้เราลองมาดูรูปแบบการใช้ Present Continuous Tense กันค่ะ
ใน Present Continuous Tense ของภาษาอังกฤษเราใช้โครงสร้าง S + Verb to be + Ving
Verb to be หรือ is am are ในภาษาอิตาลีจะมี Verb essere
ก่อนหน้านี้ เพื่อนๆคงรู้จัก Verb essere มาบ้างแล้ว คงจะพบว่า verb to be ในอิตาลีง่ายกว่าภาษาอังกฤษมากๆ
เพราะมันมีแค่ 2 อัน คือถ้าประธานเป็นเอกพจน์จะใช้แค่ e' ส่วนถ้าเป็นพหูพจน์ และ I จะใช้ sono ค่ะ
นี่คือตัวอย่างสำหรับการทบทวนค่ะ
Io sono bello. = I am handsome. Lei e' carina = She is cute.
Chompoo e' molto bella = Chompoo is very beautiful.
Loro sono simpatici = they are nice. Gli studenti sono bravi = The students are clever.
ส่วน Verb ที่จะมาทำหน้าที่แทน Verb to be ที่ใช้กับ Present Continuous ในภาษาอิตาลีจริงๆ คือ Verb Stare ซึ่งเราจะผันกับประธาน ดังนี้ค่ะ
Io sto , Tu stai , Lei/Lui sta ,Noi stiamo ,Voi state , Loro stanno
Verb Stare = to be, to stay, remain, stand, be situated, live; to fit, depend (on); to be about to
แล้วถ้าเรายังจำได้ว่า Verb ในภาษาอิตาลี มีการผัน 3 แบบใหญ่ๆ ในการทำให้เป็น Continuous หรือเติม -ing Verb นี้ พวกนี้มันก็จะมีวิธีแปลงร่างที่ต่างกันออกไปอีกค่ะ ว้าวๆๆ แต่มันก็ไม่ยากเกินไปค่ะ คือ Verb ที่ลงท้ายด้วย are ให้ ตัด re ออกแล้วเติม ndo ให้มันออกเสียงลงท้ายว่า ando ส่วน Verb ที่ลงท้ายด้วย ere,ire ให้ตัดแล้วทำให้มันออกเสียงลงท้ายว่า endo ค่ะ
- are verbs Ex camminare –-> camminando = walking
- ere verbs Ex vendere –-> vendendo = selling
- ire verbs Ex finire –-> finendo = finishing
แต่ก็ยังมีรูปคำอื่นๆ ที่ไม่ได้ผันตามกฎนี้ เช่น
fare [to do / make] - facendo , dire [to say] – dicendo ,bere [to drink] - bevendo
ส่วนการทำ Present Con แบบสมบูรณ์ คือ
ใช้ Subject + V stare ที่ผันตามรูปประธานแล้ว + V ing ที่แปลงร่างแล้ว
ดังนัั้น ถ้าจะบอกว่า ฉันกำลังเดิน ก็ต้องเป็น (Io) sto camminando นั่นเองค่ะ ในภาษาอิตาลีชอบละประธานคะ
เพราะ Verb ที่ผันมักจะบอกรูปประธานไว้แล้ว ซึ่งถ้าหากพูดว่า Sto เขาก็จะรู้กันอยู่แล้วว่ามันคือ Io
ลองทำความเข้าใจรูป present con ในประโยคข้างล่างกัน
Cosa stai facendo? - What are you doing?
Sto lavorando – I'm working
Sta dormendo – He is sleeping
Stiamo finendo ora ! - We're finishing now!
Sto lavorando – I'm working
Sta dormendo – He is sleeping
Stiamo finendo ora ! - We're finishing now!
ว่าแล้ว เพื่อนๆ ลองช่วยกันเติม Verb ing ที่หายไปกันดีกว่า!
Maria sta [scrivere] ____________ una lettera.
Stiamo [guardare] ____________ il telegiornale.
Sto [aspettare] ____________ il treno.
Cosa stai [leggere] ____________?
I ragazzi stanno [partire] ____________ ora.
Stiamo [guardare] ____________ il telegiornale.
Sto [aspettare] ____________ il treno.
Cosa stai [leggere] ____________?
I ragazzi stanno [partire] ____________ ora.
Now put the correct form of the present tense of stare in the gaps:
Giovanni ______ mangiando.
Io ____ finendo il lavoro.
I bambini ______ dormendo.
Cosa _______ facendo, ragazzi?
Dove _____ andando, Maria? [tu form]
Io ____ finendo il lavoro.
I bambini ______ dormendo.
Cosa _______ facendo, ragazzi?
Dove _____ andando, Maria? [tu form]
(จาก italymagazine.com)
วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
คำอวยพร/คำพูดในโอกาสสำคัญ
คำอวยพร พูดในโอกาสสำคัญ แบบ ..ง่ายๆ ค่ะ
Congratulazioni. = Congratulation!
Tanti Auguri = Congratualtion!
Buon Compleanno = Happy Birthday
Felice anniversario! = Happy Anniversary
Buona Guarigione = Get well soon.
Complimenti! = Well done
Buon Natale e Felice Anno Nuovo! = Marry Christmas and A happy new year
Buona Pasqua! = Happy Easter
Buone Vacanze! = Happy Holidays
Buon Anno! = Happy New Year
Buon Giorno del Ringraziamento = Happy Thankgivings
Grazie tante per... = Many Thanks for ...
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
กรรมตรงรูปแบบอื่นๆ
จากที่เราได้รู้ว่า สรรพนามที่ทำหน้าที่กรรมตรง ของภาษาอิตาลี มันต้องแทนด้วยคำพวกนี้ >>>
จาก ความเดิม http://pasaitalian.blogspot.com/2013/10/object-pronouns-i-pronomi-diretti.html
อย่างที่เราได้ยกตัวอย่างประโยคว่า Io mangio una mela. I eat an apple ฉันกินแอปเปิ้ล
แล้วถ้าเราลองใช้กรรม - เมื่อเราเข้าใจกันดีว่ากรรมคือแอปเปิ้ลแล้ว ก็สามารถเขียนได้ว่า Io la mangio.
หรือ La mangio -- อิตาลีจะชอบละประธานแบบนี้ค่ะ
ซึ่งเราได้เอากรรมมาไว้ข้างหน้า แต่ทีนี้ กรรมตรงก็สามารำเอามาไว้ข้างหลัง Verb ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นในกรณีที่รูปประโยคนั้นซับซ้อนขึ้น เอาเป็นว่าเราลองดูตัวอย่างพอเป็นพิธีละกันค่ะ
È importante mangiarla ogni giorno. (It is important to eat it every day.) จะเอามาไว้ข้างหลัง Verb
È una buon’idea invitarli. It’s a good idea to invite them. อยู่หลัง verb invitare
ทำให้เราเข้าใจได้ว่า กรรมที่มาอยู่ หลัง Verb ได้ เราจะต้องผ่าตัดให้ Verb เหลือรากจำก่อน
สังเกตดีๆนะคะ ว่า mangiare และ invitare เป็น verb are ซึ่งมีการผัน ในกลุ่มเดียวกัน เราก็ตัด e ออก ให้เหลือแต่ invitar และ mangiar ค่ะ จากนั้นก็เติมสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมโดยเลือกใช้ตามตัวหนังสือสีแดงๆ ข้างบนนี้ได้เลย :D
---------------------------------------------------------------------------------------
แต่ถ้าเป็นประโยคง่ายๆ คงยังไม่ค่อยใช่ค่ะ แต่ที่ใช้ในลักษณะคล้ายๆ กันก็มีคำว่า Ecco นี่แหละค่ะ
SINGULAR | PLURAL |
mi me | ci us |
ti you (informal) | vi you (informal) |
La you (formal m. and f.) | Li you (form., m.) |
Le you (form., f.) | |
lo him, it | li them (m. and f.) |
la her, it | le them (f.) |
จาก ความเดิม http://pasaitalian.blogspot.com/2013/10/object-pronouns-i-pronomi-diretti.html
อย่างที่เราได้ยกตัวอย่างประโยคว่า Io mangio una mela. I eat an apple ฉันกินแอปเปิ้ล
แล้วถ้าเราลองใช้กรรม - เมื่อเราเข้าใจกันดีว่ากรรมคือแอปเปิ้ลแล้ว ก็สามารถเขียนได้ว่า Io la mangio.
หรือ La mangio -- อิตาลีจะชอบละประธานแบบนี้ค่ะ
ซึ่งเราได้เอากรรมมาไว้ข้างหน้า แต่ทีนี้ กรรมตรงก็สามารำเอามาไว้ข้างหลัง Verb ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นในกรณีที่รูปประโยคนั้นซับซ้อนขึ้น เอาเป็นว่าเราลองดูตัวอย่างพอเป็นพิธีละกันค่ะ
È importante mangiarla ogni giorno. (It is important to eat it every day.) จะเอามาไว้ข้างหลัง Verb
È una buon’idea invitarli. It’s a good idea to invite them. อยู่หลัง verb invitare
ทำให้เราเข้าใจได้ว่า กรรมที่มาอยู่ หลัง Verb ได้ เราจะต้องผ่าตัดให้ Verb เหลือรากจำก่อน
สังเกตดีๆนะคะ ว่า mangiare และ invitare เป็น verb are ซึ่งมีการผัน ในกลุ่มเดียวกัน เราก็ตัด e ออก ให้เหลือแต่ invitar และ mangiar ค่ะ จากนั้นก็เติมสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมโดยเลือกใช้ตามตัวหนังสือสีแดงๆ ข้างบนนี้ได้เลย :D
---------------------------------------------------------------------------------------
แต่ถ้าเป็นประโยคง่ายๆ คงยังไม่ค่อยใช่ค่ะ แต่ที่ใช้ในลักษณะคล้ายๆ กันก็มีคำว่า Ecco นี่แหละค่ะ
คำว่า ecco ที่แปลว่า here I am, here you are, here he is,and so on
ecco แปลได้ความหมายว่า นั่นไง อยู่นี่แหละ เหมือนในภาษาไทยค่ะ เราจะเติมคำกรรมสรรพนามหลังคำว่า ecco เพื่อแสดงว่า สิ่งที่เป็นกรรมพวกนั้นน่ะ มันอยู่นั้นแหละ อยู่นี่แหละ อยู่นี่ไง อะไรเถือกนั้นนั่นเอง
Example : (จาก about.com)
ecco แปลได้ความหมายว่า นั่นไง อยู่นี่แหละ เหมือนในภาษาไทยค่ะ เราจะเติมคำกรรมสรรพนามหลังคำว่า ecco เพื่อแสดงว่า สิ่งที่เป็นกรรมพวกนั้นน่ะ มันอยู่นั้นแหละ อยู่นี่แหละ อยู่นี่ไง อะไรเถือกนั้นนั่นเอง
Example : (จาก about.com)
Dov’è la signorina? – Eccola! (Where is the young woman? – Here she is!)
Hai trovato le chiavi? – Sì, eccole! (Have you found the keys? – Yes, here they are!)
Hai trovato le chiavi? – Sì, eccole! (Have you found the keys? – Yes, here they are!)
วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556
มาดูคำแสดงความเป็นเจ้าของกันจ้า
ภาษาอังกฤษ | เอกพจน์ชาย | เอกพจน์หญิง | พหูพจน์ชาย | พหูพจน์หญิง |
---|---|---|---|---|
my | il mio | la mia | i miei | le mie |
your (oftu) | il tuo | la tua | i tuoi | le tue |
your (ofLei) | il Suo | la Sua | i Suoi | le Sue |
his, her, its | il suo | la sua | i suoi | le sue |
our | il nostro | la nostra | i nostri | le nostre |
your (ofvoi) | il vostro | la vostra | i vostri | le vostre |
your (ofLoro) | il Loro | la Loro | i Loro | le Loro |
their | il loro | la loro | i loro | le loro |
คำแสดงความเป็นเจ้าของต้องใส่ article บอกเพศ บอกพจน์ด้วย
la mia camicia (my shirt)
il nostro amico (our friend)
i vostro vicini (your neighbor)
i suoi libri (his/her books)
ดูจากคำตัวอย่างข้างบน เราจะเห็นว่า ทั้ง article il la li le + คำแสดงความเป็นเจ้าของ อย่าง mio mia miei mie tuo... + คำนาม ทั้งหมด มันจะสอดคล้องตามเพศ และพจน์ของมัน
ทั้ง article คำแสดงความเป็นเจ้าของด้วย แล้วก็คำนามด้วย มีความตรงกันทั้งเพศและพจน์หมด
ดังนั้น คำที่เราจะพูด ต้องผันไปในทางเดียวกันค่ะ
Example : libro แปลว่า หนังสือ หรือ book เฉยๆ ค่ะ ซึ่งตามรูปคำมันต้องเป็นเพศชายอยู่แล้ว หากใส่ article ด้วย ก็ต้องดูว่าจะให้เป็น เอกพจน์หรือ พหูพจน์ อาจจะเป็น i หรือ il แต่คำนามก็ต้องผันด้วยว่าเป็น libro หรือ libri
จากนั้นก็ใส่คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ ก็ต้องดูว่า จะให้เป็น หนังสือของเรา ของเขา ของเธอ ของพวกเรา ของพวกเขา พวกเธอ แบบไหนอีกก็ว่ากันไปค่ะ
บางกรณี ก็มีการละ article ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ หรือบางทีก็เอา คำแสดงความเป็นเจ้าของพวกนี้ไปไว้ด้านหลัง
a casa mia (my house)
ècolpa sua (it's his/her fault)
è merito tuo (it's your merit)
piacere mio (my pleasure)
ècolpa sua (it's his/her fault)
è merito tuo (it's your merit)
piacere mio (my pleasure)
เริ่มต้นเรียนบทสนมนากันอีกครั้งดีกว่า....
ลองเข้าไปเรียนบทสนทนาที่เว็บนี้กันค่ะ
http://www.oneworlditaliano.com/english/italian-course/italian-course-1.htm
มีเสียงให้ฟังด้วย เพื่อนๆ ลองหัดออกเสียงตามได้เลยนะคะ ^^
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เราลองมาชำแหละกันค่ะ
Manuela: Ciao Giorgia, come stai?
Giorgia: Bene, grazie! E tu?
ตรงนี้ยังเหมือนเดิม ที่เรารู้กันว่า
Ciao = Hi Come stai = How are you Bene = fine/good grazie = thanks E = and tu = you
Manuela: Anch' io! Oh, ciao Veronica! Che piacere vederti! Dove vai?
Anch'io = me too! Che piacere vederti! ดีใจที่ได้เจอเธอ Dove vai? เธอกำลังไปไหนเหรอ?
Veronica: Ciao Manuela! Io vado a Milano. E tu?
Io vado a milano ... vado == > verb andare (ไป)ที่ผัน กับ io เป็น vado ค่ะ มันเลยได้ความว่า ฉันไป มิลาน
Manuela: Anch' io vado a Milano. ฉันไปมิลานด้วย
Veronica: Lei è una tua amica?
Lei มีความหมายว่า คุณ หรือ หล่อนผู้หญิงก็ได้ แต่ในบริบทนี้ต้องเป็นหล่อนผู้หญิงค่ะ
เพราะตรงนี้ Veronica กับ Giorgia พึ่งรู้จักกันค่ะ ก็จะมีความหมายทั้งประโยคว่า หล่อนเป็นเพื่อนของเธอเหรอ?
e' หรือ sono เป็น Verb to be เหมือน is am are ค่ะ เพียงแต่ sono ใช้กับ i และ พหูพจน์ ส่วน e' ต้องใช้กับรูปเอกพจน์ค่ะ
una tua amica amica แปลว่าเพื่อนผุ้หญิงค่ะ ถ้าเป็น amico จะเป็นเพื่อนผู้ชาย
ส่วน tua เป็นคำแสดงความเป็นเจ้าของ เหมือนพวก my your their her his... แต่ tua = your นั่นเองค่ะ
Manuela: Sì, studiamo insieme all'università. ใช่ studiamo = เราเรียน ผัน verb studiare เป็น Noi Studiamo
insieme = together ด้วยกัน all'universita ที่มหาลัย universita เป็นมหาลัยค่ะ ส่วน all' เป็นคำบุพบท เหมือน at
ใช่ เราเรียนด้วยกันที่มหาลัย
Veronica: Piacere, io sono Veronica! E tu come ti chiami?
piacere ด้วยความยินดี ฉันคือ ... come ti chiami ? คุณชื่ออะไร
Giorgia: Piacere, io mi chiamo Giorgia. Di dove sei? Mi chiamo --- ฉันชื่อ....
Veronica: Io sono di Cagliari, e tu? Io sono di .... ฉันมาจาก..... Io sono di Bangkok lol
Giorgia: Io sono di Sassari ma studio a Cagliari. E tu che cosa fai?
Che cosa fai? ทำอะไรอยู่?
Veronica: Anch'io sono una studentessa. Quanti anni hai? ฉันเป็นนักเรียนอยู่ studentessa = นักเรียน (ผู้หญิง)
Quanti anni hai ? เธออายุเท่าไหร่จ๊ะ ?
Giorgia: 20. E tu?
Veronica: Io ho 21 anni.
http://www.oneworlditaliano.com/english/italian-course/italian-course-1.htm
มีเสียงให้ฟังด้วย เพื่อนๆ ลองหัดออกเสียงตามได้เลยนะคะ ^^
สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เราลองมาชำแหละกันค่ะ
Manuela: Ciao Giorgia, come stai?
Giorgia: Bene, grazie! E tu?
ตรงนี้ยังเหมือนเดิม ที่เรารู้กันว่า
Ciao = Hi Come stai = How are you Bene = fine/good grazie = thanks E = and tu = you
Manuela: Anch' io! Oh, ciao Veronica! Che piacere vederti! Dove vai?
Anch'io = me too! Che piacere vederti! ดีใจที่ได้เจอเธอ Dove vai? เธอกำลังไปไหนเหรอ?
Veronica: Ciao Manuela! Io vado a Milano. E tu?
Io vado a milano ... vado == > verb andare (ไป)ที่ผัน กับ io เป็น vado ค่ะ มันเลยได้ความว่า ฉันไป มิลาน
Manuela: Anch' io vado a Milano. ฉันไปมิลานด้วย
Veronica: Lei è una tua amica?
Lei มีความหมายว่า คุณ หรือ หล่อนผู้หญิงก็ได้ แต่ในบริบทนี้ต้องเป็นหล่อนผู้หญิงค่ะ
เพราะตรงนี้ Veronica กับ Giorgia พึ่งรู้จักกันค่ะ ก็จะมีความหมายทั้งประโยคว่า หล่อนเป็นเพื่อนของเธอเหรอ?
e' หรือ sono เป็น Verb to be เหมือน is am are ค่ะ เพียงแต่ sono ใช้กับ i และ พหูพจน์ ส่วน e' ต้องใช้กับรูปเอกพจน์ค่ะ
una tua amica amica แปลว่าเพื่อนผุ้หญิงค่ะ ถ้าเป็น amico จะเป็นเพื่อนผู้ชาย
ส่วน tua เป็นคำแสดงความเป็นเจ้าของ เหมือนพวก my your their her his... แต่ tua = your นั่นเองค่ะ
Manuela: Sì, studiamo insieme all'università. ใช่ studiamo = เราเรียน ผัน verb studiare เป็น Noi Studiamo
insieme = together ด้วยกัน all'universita ที่มหาลัย universita เป็นมหาลัยค่ะ ส่วน all' เป็นคำบุพบท เหมือน at
ใช่ เราเรียนด้วยกันที่มหาลัย
Veronica: Piacere, io sono Veronica! E tu come ti chiami?
piacere ด้วยความยินดี ฉันคือ ... come ti chiami ? คุณชื่ออะไร
Giorgia: Piacere, io mi chiamo Giorgia. Di dove sei? Mi chiamo --- ฉันชื่อ....
Veronica: Io sono di Cagliari, e tu? Io sono di .... ฉันมาจาก..... Io sono di Bangkok lol
Giorgia: Io sono di Sassari ma studio a Cagliari. E tu che cosa fai?
Che cosa fai? ทำอะไรอยู่?
Veronica: Anch'io sono una studentessa. Quanti anni hai? ฉันเป็นนักเรียนอยู่ studentessa = นักเรียน (ผู้หญิง)
Quanti anni hai ? เธออายุเท่าไหร่จ๊ะ ?
Giorgia: 20. E tu?
Veronica: Io ho 21 anni.
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)